ประกาศการจัดสอบวิชาพื้นฐาน ครั้งที่ 3 ประจำภาคการศึกษาที่ 2/2565 ผ่านระบบ PBRU Exit Exam System

ประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี

เรื่อง การจัดสอบวิชาพื้นฐาน ครั้งที่ 3 ประจำภาคการศึกษาที่ 2/2565 ผ่านระบบ PBRU Exit Exam System


          ตามระเบียบสภาประจำสถาบันราชภัฏเพชรบุรี ว่าด้วยการสอบและค่าธรรมเนียมในการสอบวิชาพื้นฐาน พ.ศ. 2543 ข้อ 5 กำหนดว่านักศึกษาที่จะสำเร็จการศึกษาได้นั้น จะต้องผ่านการเรียนการสอนตามหลักสูตรที่กำหนดและสอบผ่านวิชาพื้นฐานอย่างน้อย 3 รายวิชา และเพื่อให้เป็นไปตามข้อ 7 แห่งระเบียบสภาประจำสถาบันราชภัฏเพชรบุรี ดังกล่าว อาศัยอำนาจตามคำสั่งมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ที่ 1334/2564 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2564 จึงประกาศการจัดสอบวิชาพื้นฐาน ครั้งที่ 3 ประจำภาคการศึกษาที่ 2/2565 ผ่านระบบ PBRU Exit Exam System มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

ดาวน์โหลดประกาศ >> CLICK

          การสมัครจะเสร็จสิ้นเมื่อชำระเงิน ค่าสมัครเท่านั้น หากวิชาใดมีผู้สมัครครบตามจำนวนก่อนหมดเขตรับสมัคร ระบบจะปิดรับสมัครวิชานั้น โดยอัตโนมัติ ผู้ที่จองวิชาสอบไว้ในระบบแต่ยังไม่ได้ชำระเงินจะไม่สามารถชำระเงินได้

ขั้นตอนการสอบวิชาพื้นฐานผ่านระบบ PBRU Exit Exam System
1.สมัครสอบวิชาพื้นฐานตามเวลาที่กำหนดในประกาศ โดยเข้าสู่ระบบ http://mis.pbru.ac.th/register เข้าเมนู “สมัครสอบวิชาพื้นฐาน”
2.เลือกรายวิชาที่ต้องการสมัครสอบวิชาพื้นฐาน โดยไม่สามารถเลือกเวลาในการสอบได้
3.ชำระเงินค่าสมัครสอบวิชาพื้นฐาน วิชาละ 50 บาท ได้ที่ฝ่ายบริหารงานคลัง (ฝ่ายการเงิน)มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ก่อนหมดเขตรับสมัคร (เวลาทำการของฝ่ายการเงิน 08.30 – 15.00 น.)
4.ตรวจสอบเวลาสอบและห้องสอบได้ในใบเสร็จรับเงิน
5.เข้าสอบตามวันและเวลาที่กำหนด
6.หลังเสร็จสิ้นการสอบ นักศึกษาสามารถตรวจสอบผลคะแนนได้ทันที

หมายเหตุ : นักศึกษาไม่สามารถขอเปลี่ยนแปลงเวลาสอบได้ หากสมัครแล้วไม่เข้าสอบตามวันและเวลาที่กำหนด จะถือว่าขาดสอบในวิชานั้น ๆ และไม่สามารถขอสอบรอบนั้นในภายหลังได้

แนวปฏิบัติการสอบวิชาพื้นฐาน ครั้งที่ 3 ปีการศึกษา 2565 ผ่านระบบ PBRU Exit Exam System
1. นักศึกษาที่จะเข้าสอบทุกคน แต่งกายชุดนักศึกษาถูกระเบียบของมหาวิทยาลัย
2. นักศึกษาที่จะเข้าสอบทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในห้องสอบและภายในอาคารสอบ
3. ช่วงระหว่างรอเข้าสอบ ให้นักศึกษาทุกคนเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (social distancing) ไม่น้อยกว่า 1 เมตร

#ข่าวจากสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน